จริงหรือไม่? สะพานพุทธคือแหล่งมั่วสุมระเริงกาม



2555 โจ๋ยึดสะพานพุทธเป็นฐานที่มั่น ตั้งแก๊งจุ๊บปี้ปากแดง มั่วสุ่ม โชว์บทรักกันโจ๋งครึ่ม เหล้า เบียร์ ความรุนแรง เพียบ เจ้าหน้าที่เผยเจอเด็กตีกันจนชิน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พบหนุ่ม-สาวโชว์บทรัก…

นอกจากจะเป็นตลาดนัดเวลากลางคืนที่รวบรวมของทันสมัยสำหรับวัยรุ่นแล้ว วันนี้บนสะพานพุทธยอดฟ้า (ฝั่งปากคลองตลาด) ถือว่าเป็นอีกแหล่งมั่วสุมแห่งใหม่ ที่มีวัยรุ่นมาร่วมตัวกันดื่ม กิน พลอดรัก ที่ได้รับความนิยมมาก

ด้านตลาดขายสินค้ากินพื้นที่จากใต้สะพานพุทธยอดฟ้า ไปจนถึงสะพานพระปกเกล้า โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งผู้ค้าบริเวณนี้เริ่มมีการนำแผงเสื้อผ้ามาตั้งกันเต็มพื้นที่

กระทั่ง 21.00 น. ขาช็อปเก่า-ใหม่ เริ่มหนาตาและแออัดมากขึ้น เมื่อลองเดินสำรวจไปบนสะพานพุทธยอดฟ้า พบว่ามีเด็กวัยรุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณกลางสะพานลอยมีวัยรุ่นอายุราว 14-20 ปี หลายสิบคนอยู่ในชุดนักเรียนคอซอง กำลังส่งเสียงดังโวยวาย บางคนก็กำลังหยอกล้อเล่นกัน บ้างก็นั่งจู๋จี๋ บางคนก็จับกลุ่มดื่มสุรา สูบบุหรี่ เมื่อได้อารมณ์ ก็นั่งพลอดรักกันอย่างไม่แคร์สายตาใคร

นายปิยะวัฒน์ อาศัยอยู่ละแวกสะพานพุทธ กล่าวว่า การมานั่งมั่วสุมกันบริเวณสะพานพุทธฯ มีมานาน 3-4 ปี แล้ว โดยระยะหลังอายุของเด็กที่มานั่งกันก็จะน้อยลงเรื่อยๆ จากแต่ก่อนจะเป็นเด็กระดับมหาวิทยาลัย กลายเป็นเด็กมัธยมผูกคอซองก็มาก

ส่วนใหญ่พวกนี้จะมานั่งเล่น กินเหล้า สูบบุหรี่ และพลอดรัก โดยการรวมตัวกันจะเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ เรียกได้ว่ายิ่งดึกมากเท่าไหร่ ก็จะมารวมตัวกันมากขึ้น และหลังจากปฏิบัติกิจบรรลุเป้าหมาย คือเมามาย ไล่ตีคู่อริ หรือพลอดรักเสร็จก็จะแยกย้ายกันกลับไปประมาณเช้ามืด

“ระยะหลังๆ จากที่เห็นจำนวนเด็กพวกนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเด็กที่พร้อมจะก่ออาชญากรรม และก็พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์กันรอบๆ สะพานพุทธฯ บางคืนก็ไล่ยิง ไล่ตีกัน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ด้านล่างตลาด และวันนี้ตนก็ไม่เห็นมีเจ้าหน้ามาดูแล”

ปัญหาที่พบบ่อยๆ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณสะพานพุทธฯ นั้นเห็นปัญหามานาน คือ หลังจากที่โจ๋เหล่านี้แยกย้ายกันกลับบ้าน ตามจุดต่างๆ ของสะพานพุทธฯ จะกลายเป็นวิกฤติขยะล้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นแก้ว–ขวดเหล้า-ซองบุหรี่-ก้นบุหรี่ ถุงพลาสติก ไปจนกระทั่งถุงยางอนามัยชุ่มๆ ทิ้งกองไว้กับพื้น ซึ่งทั้งหมดเป็นภาพที่คนแถวนี้เคยชิน

“ลองไปถามคนที่ตกปลา หรือคนที่ขับเรือผ่านไป-มาแถวนี้ ว่าภาพถุงยางลอยน้ำอยู่เขาเห็นจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาดูแลตรงนี้บ้าง เพราะปัจจุบันเรื่องแบบนี้ในที่สาธารณะของสะพานพุทธฯ มันกลายเป็นเรื่องปกติซะแล้ว”

กิจกรรมที่สามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ที่สะพานพุทธฯ ก็คือ นอกจากเรื่องยกพวกตีกัน และก็เรื่องเพศสัมพันธ์ในย่านนี้แล้ว ธวัชชัย บอกว่า สิ่งที่ลายคนไม่รู้ก็คือที่ราวสะพานมันยังมีแก๊ง “จุ๊บปี้ปากแดง” ซึ่งเป็นการรวมตัวของเด็กอายุระหว่าง 13-15 ปี และมีหัวหน้าแก๊งอายุ 20 ปี พฤติกรรมชอบทาหน้าขาว และทาปากสีแดง มักจะรวมตัวกันอยู่บริเวณบนสะพานพุทธฝั่งปากคลองตลาด

รวมตัวกันอยู่บริเวณบนสะพานพุทธฝั่งปากคลองตลาด มักจะทำอะไรแปลกๆ เช่น ดึกๆ คนไม่ค่อยมีแล้ว เขาจะถ่ายรูปเปลือย เพื่อพิสูจน์ความกล้า และถ้าใครทำก็จะได้รับการชื่นชม สาเหตุที่ตนรู้ก็เพราะในกลุ่มสาวใจกล้านี้มีเพื่อนตนที่อยู่ในนั้น 1 คน

ช่วงเวลาที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมนั่งบริเวณดังกล่าว เป็นวันศุกร์-เสาร์ มีทั้งเด็กผู้ชายและผู้หญิงปะปนกัน โดยเฉพาะช่วงดึกจะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากเครื่องแต่งกายส่วนมากจะเป็นนักเรียนพาณิชย์และมัธยม มานั่งกอดกันอย่างประเจิดประเจ้อ ซึ่งก็เป็นเรื่องอันตรายมาก

เชื่อหรือไม่ว่าสองเดือนเศษตนเห็นเด็กวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์กันตามสุมทุมพุ่มไม้ไปจนถึงมีอะไรกันบนสะพาน

“และที่หนักไปกว่านั้น จำได้แม่นเลยขณะเดินไปรอบบริเวณ เริ่มตั้งแต่ลานกิจกรรม ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ ร.1 ก็เจอนักศึกษาหนุ่ม-สาวอายุประมาณ 18 ปี กำลังล้วงควักกัน จึงเข้าไปห้าม ซึ่งพวกเขาก็ทำท่าไม่พอใจ

บางวันเดินบนสะพานพุทธฯ อยู่ดีๆ ก็เจอภาพวัยรุ่นจูบปากกันอย่างเมามันอีก แต่ที่น่าตกใจก็คือคู่นี้อายุราว 14-15 ปีเท่านั้น พอเข้าไปเตือนเขาก็เฉย กระทั่งเราต้องเป็นฝ่ายอายและเดินหนีไป พอไปถามพี่ๆ เขาบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะบางวันเล่ากันว่า

ขณะมีอะไรกันพวกเขาก็จะควักมือถือออกมาถ่ายรูปเปลื้องผ้ากันด้วยความสนุกสนานเลยทีเดียว ผมก็เคยถามพวกเขาตรงๆ นะว่าทำไมไม่ไปที่ที่ลับหูลับตา เขาบอกว่าเปลืองเงินแล้วมันยังไม่ตื่นเต้น แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ตรวจตรารอบๆ อนุสาวรีย์ ร.1 เรื่องแบบนี้ก็ทำลำบากมากขึ้น”

ข่าวโดย : ไทยรัฐออนไลน์

ท่านมีความคิดเห็นยังไงกับข่าวนี้ เชิญแสดงความคิดเห็นได้เลย

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏอยู่นี้ เกิดจากการแสดงความคิดเห็น และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง http://hottopic2day.blogspot.com/ มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานเพื่อทราบ ในการดำเนินการต่อไป