คู่กรณี นิชคุณ ยังนอนเจ็บอยู่ รพ.


สื่อในเกาหลีใต้ได้รายงานถึงอาการบาดเจ็บของคนขับรถมอเตอร์ไซค์ คู่กรณีของ นิชคุณ จากกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขายังคงต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป

โดยในวันที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนั้น คนขับรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณีได้รับบาดเจ็บมีเลือดไหลออกมาจากที่ศีรษะ , หลัง และหู รวมทั้งยังเจ็บบริเวณหลังและไหล่ถึงขั้นขยับตัวไม่ได้

ผู้บาดเจ็บได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยคอนกุ๊กทันที และได้รับการรักษาเนื้อเยื่อในหู เอ็กซเรย์ และตรวจด้วยวิธี CAT scans ด้วย ต่อมาจึงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเขตกังนัม จนถึงปัจจุบัน

ล่าสุด รายงานอ้างอิงจากคนใกล้ชิดของผู้บาดเจ็บที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในเกาหลีใต้ ว่า ผู้บาดเจ็บยังคงต้องรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลไปอีกซักระยะ ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาอยู่ที่บริเวณหลัง โดยตอนนี้แค่จะนั่งเตียงดูทีวีซัก 20 นาที ยังทำไม่ได้ ต้องได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเขายังขยับตัวไม่ค่อยได้ ต้องมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีรายละเอียดที่ไม่ชัดเจนอีกหลายจุด รวมถึงเรื่องอาการบาดเจ็บของคู่กรณี เนื่องจากรายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า คู่กรณีบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ต่อมามีรายงานว่า คนขับมอเตอร์ไซค์ วัย 55 ปี ได้รับบาดเจ็บและเสียเลือดจนต้องมีการนำส่งโรงพยาบาล

ขณะเดียวกัน ยังมีคำกล่าวอ้างจากพยานในเหตุการณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ดูเหมือนว่าคนขับรถมอเตอร์ไซค์จะลุกขึ้นมายืนได้แล้ว แต่เขาก็รีบนอนลงไปใหม่ทันทีหลังจากที่เห็นหน้านิชคุณ

ข่าวโดย : ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ยายฆ่าหลาน! สุดสลด ยายแท้ๆ ฆ่า น้องเบิร์ด


ยายฆ่าหลาน เนื่องจากกรณีที่ ด.ช.อัฐสิทธิ์ ลีเลิศยุทธ์ หรือ น้องเบิร์ด อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งตายปริศนาตรงทางหนีไฟใกล้ที่พัก อาคารยงเจริญคอมเพล็กซ์ เมื่อวันศุกร์ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ตำรวจคาดเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากพบบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง และพิรุธหลายจุด เช่น รองเท้าแตะของผู้ตายหายไป และที่คอมีรอยคล้ายถูกรัด เบื้องต้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีผู้ต้องสงสัย 3 รายนั้น

จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่ามีบาดแผลชัดเจนว่าผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยฐานกะโหลกร้าว เลือดออกในสมอง คอด้านซ้ายมีร่องรอยถูกของแข็ง มีรอยฟกช้ำ เลือดคั่งที่สมอง จนทำให้เสียชีวิต

กล้องวงจรปิด พบเด็กได้เดินกลับเข้าห้องพักในเวลาประมาณ 19.00 น. ก่อนจะออกจากห้องอีกครั้งในเวลา 21.00 น. อาจเป็นไปได้ว่าหลังออกจากห้อง เด็กได้ไปพบเห็นเหตุการณ์ หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ใหญ่ เช่น ยาเสพติด จึงก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กในคอนโดมิเนียมดังกล่าว เนื่อง

แม่ของน้องเบิร์ด ซึ่งจัดพิธีฌาปนกิจศพที่วัดต้นไทรย์ ซอยอ่อนนุช 29 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. กล่าวทั้งน้ำตาว่า ต้องสวดศพเพียงวันเดียว เพราะตนเห็นภาพน้องเบิร์ดในสภาพนี้นานไม่ได้ จึงจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อให้น้องเบิร์ดไปสู่สุคติโดยเร็ว ทั้งนี้ เชื่อว่าตำรวจจะต้องจับตัวคนฆ่ามาได้ในไม่ช้านี้

ถ้าจับคนร้ายได้ ตนอยากจะให้มาขอขมาน้องเบิร์ดด้วย และถ้าคนร้ายเป็นเด็กรุ่นเดียวกับน้องเบิร์ดก็อยากจะถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ใครสั่งมา พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนหรือไง แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ จะถามเขาว่าน้องเบิร์ดไปทำอะไรให้ ถึงได้ทำกับน้องเบิร์ดอย่างนี้ มีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า

ล่าสุด ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ได้คุมตัว นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นยายของน้องเบิร์ด และเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว

นางสมจิตร ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้าย น้องเบิร์ดจริง เพราะความโมโห เนื่องจากว่าทะเลาะกับน้องเบิร์ด เพราะทำความผิดจนถูกเรียกผู้ปกครอง

ในวันเกิดเหตุด้วยความโมโห ตนจึงใช้ไม้ตีที่ศีรษะของน้องเบิร์ดจนมีอาการชัก แล้วนำไปทิ้งไว้ที่บันไดหนีไฟในจุดที่พบศพ ต่อมาทราบภายหลังว่า หลานได้เสียชีวิตแล้ว

ที่มา: เดลินิวส์ ยายฆ่าหลาน